โรคแพนิค
ในปัจจุบันทุกคนมีวิถีชีวิตที่รีบเร่ง และ มีความวิตกกังวล อาจจะมีความเสี่ยงเป็น โรคแพนิค หรือ โรคตื่นตระหนก (Panic Disorder) เป็นความผิดปกติทางจิตเวชชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยจะมีอาการตื่นตระหนกอย่างรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ใด ๆ อาการจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 10 นาที และอาจนานเป็นชั่วโมง อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- หัวใจเต้นเร็ว
- หายใจถี่
- หายใจไม่ทัน
- เหงื่อออก
- มือเท้าเย็นหรือชา
- รู้สึกเวียนศีรษะ
- มึนงง
- กลัวตาย
- กลัวควบคุมตัวเองไม่ได้
- กลัวบ้า
อาการของโรคแพนิคอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกลัวมากจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ส่งผลให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงสถานที่หรือสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดอาการได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเก็บตัว แยกตัวจากสังคม และมีปัญหาในการดำรงชีวิตประจำวันได้ และอาจจะส่งผลให้เกิดการผิดปกติของร่างกายได้ เช่นระบบ ย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย ปวดหัวไมเกรน และถ้าเป็นมากๆอาจจะส่งผลให้มีความคิดทำร้ายตัวเอง เพื่อหยุดอาการต่างๆ
สาเหตุของ โรคแพนิค
ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคแพนิค แต่เชื่อกันว่าอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน เช่น
- พันธุกรรม
- การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง
- เหตุการณ์เครียดหรือกระทบกระเทือนจิตใจ
- ขาดสารอาหารบางชนิด เช่น Zinc โพรไบโอติก แมกนีเซียม โปรตีน
การรักษาโรคแพนิค
โรคแพนิคสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาร่วมกับการบำบัดทางจิต โดยยาที่ใช้รักษาโรคแพนิค ได้แก่
- ยาต้านอาการซึมเศร้า (Antidepressants)
- ยาคลายกังวล (Anxiolytics)
การบำบัดทางจิตที่อาจใช้รักษาโรคแพนิค ได้แก่
- จิตบำบัดแบบรับรู้ว่าสัมพันธ์ (Cognitive Behavioral Therapy: CBT)
- จิตบำบัดแบบกลุ่ม (Group Therapy)
- การป้องกันโรคแพนิค
ยังไม่มีวิธีป้องกันโรคแพนิคที่แน่นอน แต่อาจลดความเสี่ยงของการเกิดโรคแพนิคได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น
- ควบคุมความเครียด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกไปเที่ยว ออกจากสภาพแวดล้อมเดิม เช่น งาน ปัญหา ต่างๆ ที่รุมเร้า
- ทำประกันสุขภาพ ที่คุ้มครองโรค แพนิค (ประกันที่คุ้มครองด้านโรคจิตเวช)
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคแพนิค
- หากมีอาการของโรคแพนิค ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- เข้าร่วมการบำบัดทางจิตร่วมกับการรับประทานยา
- ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ การฝังเข็ม เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงสถานที่หรือสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดอาการ
- หากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อผ่อนคลายความเครียด
คำแนะนำสำหรับญาติหรือคนใกล้ชิด
- เข้าใจและให้ความสนับสนุนผู้ป่วย
- ไม่ตำหนิหรือทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอับอาย
- พาผู้ป่วยไปพบแพทย์ตามนัด
- ช่วยผู้ป่วยฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย
- หากิจกรรมร่วมกับผู้ป่วยเพื่อผ่อนคลายความเครียด
- การทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองโรคแพนิค ให้กับตนเอง
- ศึกษาอาการของโรค และสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ป่วย
โรคแพนิค เป็นโรคเฉพาะทาง การรักษาอาจต้องใช้ยา หรือ การรักษาทางจิตด้วยการบำบัด บางรายอาจจะต้องทำทั้ง2 แบบ พร้อมกัน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาอาจสูง การทำประกันสุขภาพจึงอาจช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ สามารถปรึกษาอินชัวร์ฮับได้เลยนะครับ เพราะเราใส่ใจ กับกลุ่มคนทุกช่วงวัยที่ แตกต่างกันไป
กลุ่มคนวัยทำงาน มักมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแพนิคสูง เนื่องจากต้องเผชิญกับความเครียดจากการทำงานและการดำเนินชีวิต การทำประกันสุขภาพที่มีคุ้มครองโรคแพนิคจึงอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด การรักษาโรคแพนิคสามารถช่วยให้ผู้ป่วยหายขาดได้ และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข