วางแผนการเงินด้วยประกันเพื่อ การลดหย่อนภาษี สำหรับผู้มีรายได้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อนๆต้องมีรู้พื้นฐานแล้วก็จะสามารถประหยัดค่าภาษีอย่างถูกกฎหมาย ด้วย การลดหย่อนภาษี บทความนี้มีคำตอบให้เพื่อนๆ ครับ
บุคคลใดบ้างที่ต้องเสียภาษีเงินได้?
บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้ตามกฎหมายกำหนด มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งรวมถึง:
- เงินเดือน
- เงินได้จากวิชาชีพอิสระ
- เงินได้จากการรับเหมา
- เงินได้จากธุรกิจและการพาณิชย์
- เงินได้จากค่าเช่า
- เงินได้จากการลงทุน
- เงินได้อื่นๆ
ประเภทของเงินได้
เงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งออกเป็น 7 ประเภท ดังนี้
- เงินได้จากการประกอบธุรกิจและวิชาชีพ
- เงินได้จากการรับจ้าง
- เงินได้จากค่าเช่า
- เงินได้จากเงินได้ประเภทอื่น
- เงินได้จากการประมง
- เงินได้จากเกษตรกรรม
- เงินได้จากผลประโยชน์ตอบแทน
การคำนวณภาษีเงินได้
การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะทำโดยนำเงินได้สุทธิ (หลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนต่างๆ) มาคำนวณตามอัตราภาษีแบบขั้นบันได ดังนี้
- เงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท : ภาษี 0%
- เงินได้สุทธิ 150,001 – 300,000 บาท : ภาษี 5%
- เงินได้สุทธิ 300,001 – 500,000 บาท : ภาษี 10%
- เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท : ภาษี 15%
- เงินได้สุทธิ 750,001 – 1,000,000 บาท : ภาษี 20%
- เงินได้สุทธิ 1,000,001 บาทขึ้นไป : ภาษี 25%
ตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้
ตัวอย่าง: นาย A มีเงินเดือน 500,000 บาทต่อปี (41,666บาท ต่อเดือน ) และมีค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพ 100,000 บาท นาย A มีรายได้สุทธิ 400,000 บาท และต้องเสียภาษีเงินได้ดังนี้
- เงินได้สุทธิ 150,000 บาท : ภาษี 0%
- เงินได้สุทธิ 250,000 บาท (400,000 – 150,000) : ภาษี 5% = 12,500 บาท
วิธีการยื่นภาษีเงินได้
ช่องทางการยื่นภาษี
มี 3 ช่องทางหลักในการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษี ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางไปรษณีย์
- ยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร
เอกสารที่ต้องเตรียม
- ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
- หลักฐานการหักลดหย่อนภาษี
- สำเนาบัตรประชาชน
- สมุดบัญชีธนาคาร
การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ผู้มีเงินได้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภาษีเงินได้ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง แต่ถ้าเพื่อนๆ ต้องเสียภาษีเงินได้แล้ว อินชัวร์ฮับขอแนะนำ การนำเงินส่วนดังกล่าวเปลี่ยนมาเป็นการออม ด้วยรูปแบบ ประกันก็จะทำให้เพื่อนๆประหยักรายจ่ายแถมได้ความคุ้มครองต่างๆได้ ดังนี้
ประกัน: เครื่องมือ ลดหย่อนภาษี ที่มอบความคุ้มครอง หลายๆด้านตามความต้องการ
ประกันชีวิต:
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์: ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินและความคุ้มครอง
- ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ: ลดหย่อนภาษีได้ 100,000 บาทต่อปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองตลอดชีวิต
- ประกันชีวิตแบบบำนาญ: ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ หรือไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณ
ประกันสุขภาพ:
- ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย: ลดหย่อนภาษีได้ 25,000 บาทต่อปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูง
- ประกันสุขภาพแบบประกันค่ารักษาพยาบาล: ลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริง
ประกันสำหรับบุคคลที่ต้องดูแล:
- ประกันสำหรับคู่สมรส: ลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาทต่อปี
- ประกันสำหรับบุตร: ลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาทต่อคนต่อปี
- ประกันสำหรับพ่อแม่: ลดหย่อนภาษีได้ 30,000 บาทต่อคนต่อปี
เทคนิคการเลือกประกันเพื่อ การลดหย่อนภาษี
- เลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์
- เปรียบเทียบเบี้ยประกันและผลประโยชน์จากบริษัทประกันต่างๆ
- เลือกประกันที่มีระยะเวลาคุ้มครองที่เหมาะสม
- ศึกษาเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีอย่างละเอียด
- ปรึกษาอินชัวร์ฮับ
การลดหย่อนภาษี เป็นวิธีที่จะช่วยให้เพื่อนๆประหยัดรายจ่ายที่เกิดจากรายได้ แต่ต้องวางแผนในการทำประกัน ก็จะเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดในการลดหย่อนภาษี อีกทั้งยังช่วยให้เพื่อนๆได้รับความคุ้มครองในยามจำเป็นและช่วยประหยัดการเสียภาษี เปลี่ยนรายจ่ายมาเป็นการออมทรัพย์ หรือ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการทำประกันสุขภาพ หากมีความต้องการด้านไหน สามารถปรึกษาอินชัวร์ฮับได้เลยครับ เรามีประกันทุกรูปแบบ มีแบบประกันที่เหมาะสม ถูกใจแน่นอนครับ