ไข้หวัดใหญ่ อันตรายถึงชีวิต
ใช่แล้ว ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ และเมื่อวันที่ 16 ก.พ.68 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 – ปัจจุบัน พบมีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด 99,057 ราย โดยเสียชีวิตแล้ว 9 ราย ซึ่งเมื่อเทียบกับข้อมูลเดิม เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 มีผู้ติดเชื้อ เพียง 7,819 ราย ทำให้พบว่า ภายในช่วง 15 วันที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นถึง 91,238 ราย โดยแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปี 2567 และตัวเลขผู้ป่วย สูงกว่าค่ากลางย้อนหลัง 5 ปี
อาการของไข้หวัดใหญ่
- มีไข้สูง (38 องศาเซลเซียสขึ้นไป)
- ไอแห้ง เจ็บคอ
- ปวดเมื่อยตามตัว
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
ภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
- ปอดบวม
- หลอดลมอักเสบ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
- ไตวาย
การป้องกันไข้หวัดใหญ่
- ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย
- สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
หากมีอาการสงสัยว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม หากมีประกันสุขภาพก็จะได้รับการรักษาที่ดีและรวจเร็ว สะดวกสบายมากขึ้น เพราะการทำประกันสุขภาพนั้นเป็นการป้องกันเชิงตั้งรับ
เปรียบเทียบคลิกข้อมูลเพิ่มเติม
- สายด่วนสุขภาพ: 1422
ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่นะคะแน่นอนค่ะ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่มีความละเอียดและเป็นประโยชน์มากขึ้น ขอนำเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
ชนิดของไข้หวัดใหญ่
ไวรัสไข้หวัดใหญ่แบ่งออกเป็น 4 ชนิดหลัก ได้แก่
- ชนิด A: เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดและมีความรุนแรงที่สุด สามารถแพร่ระบาดเป็นวงกว้างได้
- ชนิด B: ทำให้เกิดอาการป่วยที่ไม่รุนแรงเท่าชนิด A มักระบาดในวงจำกัด
- ชนิด C: ทำให้เกิดอาการป่วยเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการ
- ชนิด D: ไม่พบการแพร่ระบาดในมนุษย์
กลไกการแพร่เชื้อ
ไข้หวัดใหญ่ติดต่อผ่านทางการหายใจ โดยเชื้อไวรัสจะแพร่กระจายผ่านละอองน้ำมูก น้ำลาย ที่ออกมาขณะไอ จาม หรือพูดคุย นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสแล้วสัมผัสกับตา จมูก หรือปาก
อาการที่ควรไปพบแพทย์ทันที
- หายใจลำบาก หายใจถี่
- เจ็บหน้าอก
- สับสน ซึมลง
- อาเจียนอย่างรุนแรง
- ไข้สูงต่อเนื่องไม่ลดลง
การรักษา
- การรักษาตามอาการ: พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ รับประทานยาลดไข้และบรรเทาอาการอื่นๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
- ยาต้านไวรัส: ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสเพื่อลดความรุนแรงของโรคและระยะเวลาการป่วย
กลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
- ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป)
- เด็กเล็ก (6 เดือน – 5 ปี)
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน โรคไต
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วย HIV ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
- หญิงตั้งครรภ์
- บุคลากรทางการแพทย์
คำแนะนำเพิ่มเติม
- หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรพักผ่อนอยู่บ้าน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น
- ควรปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชูทุกครั้งที่ไอหรือจาม แล้วทิ้งกระดาษทิชชูในถังขยะที่มีฝาปิด
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย
- ควรทำประกันสุขภาพติดตัวเพิ่มเติมไว้ ไม่ว่าจะแผนเล็กหรือแผนใหญ่ ก็สามารถช่วยได้ในยามเจ็บป่วย
หวังว่าข้อมูลเพิ่มเติมนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกท่านเข้าใจเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่มากขึ้นนะคะ และถ้าหากสนใจดูประกันสุขภาพที่ครอบคลุม โรคต่างๆ ก็สามารถสอบถามอินชัวร์ฮับได้เลยคะ ความคุ้มครอง คุ้มค่า คุ้มราคา