ไม่ว่าจะฝนตก น้ำซึม น้ำท่วมห้อง! ปกป้องคอนโด–บ้านปลอดภัยด้วยประกันอัคคีภัย
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีฤดูกาลชัดเจน โดยเฉพาะฤดูฝนและช่วงปลายปีที่เข้าสู่หน้าหนาว หลายคนอาจคิดว่าปัญหาใหญ่คืออากาศเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ตามมาคือ น้ำรั่วซึม น้ำท่วมบ้าน และความเสียหายที่ไม่คาดคิดต่อทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือคอนโด ปัญหาเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
และเมื่อความเสียหายเกิดขึ้น ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาจสูงจนกระทบการเงินและชีวิตประจำวัน ดังนั้น “ประกันอัคคีภัย” จึงไม่ใช่แค่เรื่องของไฟไหม้อีกต่อไป แต่ยังเป็นเกราะป้องกันภัยรอบด้านที่ช่วยให้เจ้าของบ้านและคอนโดอุ่นใจ
1. ทำไมฝนตกหรือน้ำท่วมจึงเป็นภัยใกล้ตัว?
- ฝนตกหนักติดต่อกัน – เสี่ยงน้ำรั่วซึมเข้าหลังคา เพดาน หรือผนัง
- น้ำท่วมขัง – สร้างความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และโครงสร้างอาคาร
- ไฟฟ้าลัดวงจร – น้ำรั่วสามารถทำให้เกิดประกายไฟ และนำไปสู่เหตุไฟไหม้
ซึ่งหลายครั้งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูงมาก เช่น คอนโดที่น้ำซึมลงไปถึงห้องข้างล่าง เจ้าของห้องต้องรับผิดชอบทั้งค่าเสียหายของตนเองและคู่กรณี
2. ประกันอัคคีภัยคืออะไร?
ประกันอัคคีภัย (Fire Insurance) คือกรมธรรม์ที่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินจากไฟไหม้เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันได้ขยายความคุ้มครองครอบคลุมถึง น้ำท่วม ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยจากลมพายุ และภัยธรรมชาติอื่นๆ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน
ความคุ้มครองหลัก ได้แก่:
- ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด
- น้ำท่วม น้ำรั่วซึม (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
- ความเสียหายต่อทรัพย์สิน เช่น บ้าน คอนโด เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
- ค่าใช้จ่ายชดเชยชั่วคราว เช่น ค่าที่พักอาศัยระหว่างซ่อม
3. บ้าน–คอนโด แตกต่างกันตรงไหนในมุมประกัน?
- บ้าน → ความเสี่ยงหลักมาจากโครงสร้าง เช่น ไฟไหม้ทั้งหลัง น้ำท่วมในพื้นที่ต่ำ
- คอนโด → ความเสี่ยงจากน้ำรั่วซึมไปห้องอื่น หรือไฟไหม้ห้องใดห้องหนึ่งที่ลุกลามไปหลายยูนิต
ดังนั้นเจ้าของคอนโดและบ้านต้องเลือก แบบประกันอัคคีภัยที่เหมาะสม เพื่อให้ครอบคลุมต่อความเสี่ยงที่ต่างกัน การทำประกันคอนโด นั้นควรทำแผนที่มีความคุ้มครองด้านโครงสร้าง ติดไว้ด้วย
การคุ้มครองด้านโครงสร้างจะคุ้มครอง
- พื้น
- ผนัง
- เพดาน
- รวมไปถึงโครงสร้างปูนต่างๆภายใน ห้องคอนโด ผู้ที่ทำประกัน
4. ตัวอย่างความเสียหายที่เคลมได้จริง
- ฝนตกหนัก น้ำรั่วเพดาน ทำให้ทีวีและเฟอร์นิเจอร์เสียหาย → เคลมค่าซ่อม/เปลี่ยน
- น้ำจากชั้นบนรั่วลงมา ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย → เจ้าของห้องเคลมได้
- ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดไฟไหม้ → ประกันชดใช้ค่าซ่อมโครงสร้างและทรัพย์สิน
5. ประโยชน์ของการทำประกันอัคคีภัย
- คุ้มครองทรัพย์สินมูลค่าสูง ไม่ต้องควักเงินเองทั้งหมดเมื่อเกิดเหตุ
- ลดความกังวลในฤดูฝน–หนาว เพราะรู้ว่ามีบริษัทประกันช่วยรับผิดชอบ
- ช่วยบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ไม่กระทบต่อเงินเก็บหรือแผนการลงทุน
- สร้างความอุ่นใจให้ครอบครัว ว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิด จะมีคนช่วยจ่าย
6. เลือกแผนประกันอัคคีภัยอย่างไร?
- เลือกทุนประกันที่ใกล้เคียงกับราคาตลาดของทรัพย์สิน
- ตรวจสอบเงื่อนไขความคุ้มครอง “น้ำท่วม/น้ำรั่วซึม” ว่าครอบคลุมหรือไม่
- เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและบริการเคลมที่รวดเร็ว
- พิจารณาเบี้ยประกัน: ปกติเริ่มต้นเพียงหลักร้อย–หลักพันต่อปี แต่คุ้มครองหลักแสน–หลักล้าน
7. ทำไมต้องซื้อกับโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้?
เพราะโบรกเกอร์ประกันเช่น InsureHub สามารถช่วยคุณ:
- เปรียบเทียบหลายบริษัทเพื่อหาแผนที่คุ้มค่าที่สุด
- ให้คำแนะนำตามลักษณะบ้าน–คอนโดของคุณ
- ดูแลหลังการขายและการเคลม เพื่อให้คุณสบายใจตลอดสัญญา
บ้านและคอนโดคือทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง และความเสียหายจากฝนตก น้ำซึม หรือไฟไหม้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมี “ประกันอัคคีภัย” จึงไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่เป็น การลงทุนเพื่อความอุ่นใจ ที่จะปกป้องทรัพย์สินและครอบครัวของคุณ
อย่ารอให้เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นก่อน ถึงจะคิดหาทางแก้ไข เริ่มต้นวันนี้ง่ายๆ เพียงติดต่อ InsureHub คุณจะได้แผนประกันที่ตรงกับความต้องการในราคาที่คุ้มค่า
📲 สนใจปรึกษาแผนประกันอัคคีภัยสำหรับบ้าน–คอนโด
โทร. 02-0044-722 หรือ ADD LINE @InsureHub


