การดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคร้ายแรง

การดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคร้ายแรง

การดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคร้ายแรง

          โรคร้ายแรง เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้คนไทยเสียชีวิต เพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี จากสถิติของกองยุทธศาสตร์และแผนงานกระทรวงสาธารณสุข พบว่า  คนไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคร้ายแรง 126.3 คน ต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ้นจาก ปีก่อนๆมาประมาณ 9% ดังนั้น ต้องเริ่มใส่ใจ การดูแลสุขภาพ ได้ตั้งแต่วันนี้ ในขณะที่ยังไม่ได้เริ่มเจ็บป่วยอะไร เพราะ คนเรามักคิดว่า อายุน้อยๆ ยังไม่น่าจะมีโอกาสเป็นโรคร้ายแรงได้ แต่ในความเป็นจริงคือทุกช่วงอายุมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคร้ายแรง และจะมีความเสี่ยงจะยิ่งสูงขึ้นในช่วงอายุที่มากขึ้นเช่นกัน ดูได้จาก สถิติ โดยอ้างอิงข้อมูลของกองยุทธศาสตร์และแผนงานกระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ. 2563 พบว่า ช่วงแรกเกิด – 14 ปี มีอัตราการเสียชีวิต 0.48 % ช่วงวัยทำงาน 15 – 59 ปี มีอัตราการเสียชีวิต 34.81% และช่วง 60 ปีขึ้นไป มีอัตราการเสียชีวิต 64.70 %

ส่วนใหญ่ เป็นเพศชาย 57 % และเพศหญิง 42 % และที่สำคัญ เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคระบาด โรคอุบัติใหม่ ที่ร้ายแรงที่ยังไม่มีการรักษาที่ดีและมีวัคซีนป้องกัน ต่างๆที่กำลังจะเข้ามาในอนาคต

          โรคต่างๆเหล่านี้ มีค่าใช้จ่ายในการรักษาดูแล สูงมาก  ส่วนใหญ่ ทุกท่านก็น่าจะมี สวัสดิการสำหรับ การรักษา เช่น บัตรทอง บัตรประกันสังคม และสิทธิข้าราชการ แต่เนื่องจากรูปแบบ การคุ้มครอง นั้นต้องเข้ารับการรักษา ที่ โรงพยาบาลที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งยาบางชนิดก็ไม่ได้คุ้มครองดูแล และการที่ต้องรอคิว ในการรับการรักษา ที่อาจจะต้องใช้เวลานาน หรือถ้ารอไม่ไหวอาจจะต้องเปลี่ยนโรงพยาบาลอาจจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไว้เอง  โดยมีค่าใช้จ่าย หลักแสนบาท ในโรงพยาบาลรัฐ แต่ถ้าเป็น โรงพยาบาลเอกชนอาจจะเกินหลักล้านบาทก็เป็นได้ ดังนั้น การดูแลสุขภาพ ที่ดี ต้องเริ่มใส่ใจดูแลตั้งแต่ วันนี้

การดูแลป้องกัน

  • โรคร้ายแรง ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ผิดออกจากรูปแบบที่ควรจะเป็น เช่น การกิน การใช้ชีวิตประจำวัน สามารถป้องกันเบื้องต้นได้ดังนี้
  1. การกินผักหรือ ทำให้ร่างกายได้รับ ไฟเบอร์ ที่เพียงพอ มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้ขับของเสียออกจากร่างกาย ให้ได้มากที่สุด และผักใบเขียวยังมี แมกนีเซี่ยม ที่สูง สามารถช่วยให้ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ และสามารถเสริมด้วย โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และ พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ที่จะช่วยปรับสมดุลลำไส้ และระบบ ขับถ่ายต่างๆให้กลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติ ถ้าของเสียร่างกายถูกขับออกมา ก็สามารถห่างไกลจาก มะเร็งเช่นกัน สามารถเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์กับร่างกายหรือที่เรียกว่า “Probiotics” ได้โดยตรงด้วยการกิน โยเกิร์ต นมเปรี้ยว และสามารถกินอาหารที่มี “Prebiotics” ซึ่งเป็นอาหารของ Probiotics เช่น กล้วย แอปเปิ้ล หอมหัวแดง กระเทียม ข้าวโอ๊ต ถั่วเหลือง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดการเกิดโรคในลำไส้ เช่น ท้องเสีย ท้องอืด มะเร็งลำไส้ ช่วยการดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้ดีขึ้นเมื่อระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายมีประสิทธิภาพที่ดี ช่วยลดภาวะโรคอ้วน และยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย หรือ เลือก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และ พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ก็ได้เช่นกัน
  2. การดื่มน้ำสะอาด ให้เพียงพอต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายขับ เชื้อโรค และ ของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้โดยปัสสาวะ ควรดื่มน้ำ ครั้งละน้อย แต่ บ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ประมาณ 2 ลิตรขึ้นไป โดยน้ำที่ดื่มเข้าไปจะเข้าไปช่วยขับของเสียออกจากเซลล์ ทุกๆ เซลล์ ในร่างกาย
  3. การออกกำลังกาย ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคได้มากมาย โดยออกกำลังกายอย่างน้อย อาทิตย์ละ 180 นาที เพียงวันละประมาณ 30-60 นาที ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่งเบาๆ ว่ายน้ำ โยคะ หรือเข้าฟิตเนส ก็ได้เช่นกัน การออกกำลังกายจะช่วยให้ กล้ามเนื้อ หัวใจ ปอด และทุกๆ ส่วนของร่างกายได้ ทำงานเต็มที่ และสามารถที่จะพัฒนา เพิ่มความสามารถได้ตลอดเวลาที่ออกกำลังกาย ร่างกายก็จะมีความแข็งแรงมากขึ้น สามารถช่วยลดการเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคมะเร็งบางกลุ่ม เป็นต้น
  4. เลือกรับประทาน อาหารที่สะอาด ปลอดสารพิษ อาหารเป็นส่วนสำคัญในการที่ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต และ ซ่อมแซมส่วนที่ศึกหลอ ต่างๆ ถ้ารับประทานอาหารที่ดี ร่างกายก็จะมีแหล่งพลังงานที่ดี หลีกเลี่ยง อาหารที่มีสารปนเปื้อน อาหารที่มีสารเร่งต่างๆ อาหารที่ไม่ได้คุณภาพหรืออาหารหมดอายุ อาหารดิบๆ และ ต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมไปถึงพวกแร่ธาตุ ต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซี่ยม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ซิงค์ ธาตุเหล็ก เป็นต้น
  5. การทำประกัน ก่อนการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรง และ โรคเรื้อรัง ก็ควรทำประกัน ก่อนตรวจร่างกาย ก็จะเป็นการดีกว่าเพราะ ประกันจะคุ้มครองดูแล เฉพาะโรคที่ไม่ได้ตรวจพบหรือเป็นมาก่อนการทำประกันต่างๆ ถ้าหากตรวจพบโรคร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังแล้ว ประกันก็จะไม่คุ้มครองดูแล โรคนั้นๆ ดังนั้น ก็ควรทำประกันสุขภาพ หรือประกันโรคร้ายแรง ไว้ก่อนการไปตรวจ สุขภาพ อย่างน้อย 120 วัน หรือตามระยะเวลาการรอคอยของประกันนั้นๆ กำหนด

โรคร้ายแรง เป็นโรคที่มีโอกาสเสียชีวิตสูง และมีการรักษาที่ยาวนาน ดังนั้น การทำประกันสุขภาพ หรือ ประกันโรคร้ายแรง ก็จะเป็นการช่วยแบ่งเบา ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตได้ ทำให้คุณสบายใจได้เลยว่า มีค่ารักษาพยาบาลแน่นอน หรือถ้ามีโอกาสเป็นโรคร้ายแรงแล้ว แต่ยังไม่เคยตรวจพบ ก็สามารถมาปรึกษา อินชัวร์ฮับได้เลยนะครับ เรายินดี ให้ข้อมูลเพื่มเติมเรื่องของประกันสุขภาพ และโรคร้ายแรง ในทุกๆรูปแบบ และยังมีประกันสุขภาพที่ไม่มีระยะเวลารอคอย มาปรึกษาประกัน อินชัวร์ฮับ มีประกันทุกรูปแบบ จะดูแลคุณเหมือนญาติมิตร เป็นเพื่อนคู่คิด เป็นมิตรเรื่องประกัน เรามีแบบประกันสุขภาพและประกันแบบอื่นๆอีกมากมาย สนใจแบบไหน สามารถมาปรึกษา ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ประกัน “ดีชัวร์” มีที่ อินชัวร์ฮับโบรกเกอร์

Click ค้นหา และ เปรียบเทียบ ประกันสุขภาพ

ลองคุยก่อน เปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ

ให้ InsureHub ดูแลคุณ คุณสามารถกรอกข้อมูล เพื่อให้ผู้เชียวชาญของเราติดต่อคุณกลับ ในการเลือก ประกันที่คุณถูกใจ

    กรุณาฝากข้อความ ชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เราจะติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด